ถือ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมานาน ซึ่งนอกจากตัวถังซีดานแล้ว สายพันธุ์สกายไลน์ของนิสสันจะต้องมีรุ่นคูเป้แบบ 2 ประตู 4 ที่นั่งทำตลาดควบคู่กันด้วย
โดยในรุ่นใหม่หลังจากปล่อยให้รุ่น 4 ประตูโฉมใหม่ในในรหัสวี36 ทำตลาดล่วงหน้ามานานเกือบ 1 ปี ตอนนี้ นิสสันพร้อมแล้วที่จะส่งตัวถังคูเป้ของสกายไลน์ลงทำตลาด พร้อมกับเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีของรถยนต์สายพันธุ์นี้ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 1957
|
ถ้าจะให้ย้อนความกันแล้ว สายพันธุ์สกายไลน์ไม่ได้ถือกำเนิดมาจากแบรนด์ของนิสสัน แต่เปิดตัวในเดือนเมษายนเมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้วโดยเป็นรถยนต์ซีดานระดับ หรูของแบรนด์พรินซ์ (Prince) ก่อนที่บริษัทแห่งนี้จะถูกผนวกเข้ามาอยู่กับนิสสันในปี 1966 และสกายไลน์ก็เปลี่ยนมาใช้โลโก้ของนิสสันเป็นครั้งแรกกับสายพันธุ์ที่ 3 ในรหัส C10 ที่เปิดตัวในปี 1968
ตลอด 50 ปีที่อยู่ในตลาด สายพันธุ์สกายไลน์ประสบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการเปิดตัวรุ่นแรงรหัสจีที-อาร์เป็นครั้งแรกในปี 1969 ก่อนที่จะหายไปและกลับมาโด่งดังสุดขีดอีกครั้งกับรุ่นอาร์32 ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 และมีการผลิตอย่างต่อเนื่องกับรุ่นอาร์33 และอาร์34
การเข้ามาของ คาร์ลอส กอนส์ พร้อมกับนโยบายใหม่แห่งการฟื้นฟูพลิกบทบาทของสกายไลน์ให้เป็นรถยนต์ที่มี ความอินเตอร์ฯ ขึ้น ซึ่งในรุ่นใหม่วี35 มีการส่งไปขายในอเมริกาเหนือภายใต้แบรนด์อินฟินิตี้พร้อมกับปลดชื่อของจีที -อาร์ที่เคยเป็นความภาคภูมิใจของแฟนรถสปอร์ตญี่ปุ่นออกจากตลาด ซึ่งแนวคิดนี้ก็ส่งผลให้ชื่อของสกายไลน์กับจีที-อาร์แยกจากกันอย่างเด็ดขาด และในรุ่นใหม่กับรหัสวี36 ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2006 ก็ยังเดินตามรอยนี้เหมือนเดิม
|
จะว่าไปแล้วด้วยความที่สกายไลน์ คือ จี ซีรีส์ ของอินฟินิตี้ในอเมริกาเหนือ จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ลูกค้าในเมืองลุงแซมจะมีโอกาสได้เห็น ได้สัมผัสกันก่อนคนญี่ปุ่น ซึ่งความจริงแล้ว นิสสัน/อินฟินิตี้นำคันต้นแบบมาเปิดตัวให้เห็นกันตั้งแต่งานชิคาโก้ มอเตอร์โชว์ ก่อนที่จะมีการคอนเฟิร์มว่าต้นแบบรุ่นนี้จะขายในชื่ออินฟินิตี้ จี37 ส่วนญี่ปุ่นก็ใช้ชื่อว่าสกายไลน์ คูเป้ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีคิวเริ่มขายเดือนสิงหาคมนี้
ไม่ ต่างกับหลายรุ่นที่ผ่านมา การพัฒนาของพื้นฐานเดียวกับรุ่นซีดานที่ใช้โครงสร้างตัวถังด้านหน้าร่วมกัน แต่มีการออกแบบตัวถังด้านท้ายใหม่โดยมาพร้อมกับทรงสปอร์ตคูเป้หลังคาแข็ง ที่มีความยาว 4,650 มิลลิเมตร กว้าง 1,824 มิลลิเมตร สูง 1,395 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร
โดยมีน้ำหนักตัวถังอยู่ในระดับ 1,660 กิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งตัวรถได้รับการพัฒนาตามแนวคิด FM หรือ Front Midship Engine ซึ่งมีการร่นตัวเครื่องยนต์ให้อยู่เลยไปทางด้านหลังของเพลาขับด้านหน้า เพื่อประโยชน์ในเรื่องของการสร้างสมดุลในการกระจายน้ำหนักด้านหน้า-หลัง
|
จุดเด่นของสกายไลน์ คูเป้ใหม่คือ การติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่อยู่ใต้ฝากระโปรง ซึ่งขุมพลังใหม่ในรหัสวีคิว37วีเอชอาร์ บล็อกวี6 ทวินแคม 24 วาล์ว ได้รับการปรับปรุงให้สามารถตอบสนองต่อสมรรถนะการขับขี่ได้ดีขึ้น
โดย เฉพาะในเรื่องของเรี่ยวแรงซึ่งมีการขยายความจุกระบอกสูบจาก 3,500 ซีซีในรุ่นเดิมมาเป็น 3,700 ซีซี และมีการนำระบบวาล์วแปรผันรุ่นใหม่ VVEL มาใช้
ผลก็คือ มีกำลังขับเคลื่อนขยับมาเป็น 330 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และ 37.3 กก.-ม. ที่ 5,200 รอบ/นาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะในการถ่ายทอดกำลังสู่ล้อหลัง แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันจี37 จะมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะให้เลือกใช้ด้วย
โครงสร้างตัวถังได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อการบิดตัวดีขึ้นจากรุ่น เดิม 36% อีกทั้งยังผ่านการทดสอบที่สนามนอร์ธคอร์สของนูร์บูร์กริง ประเทศเยอรมนีมาแล้ว ซึ่งระบบช่วงล่างของรุ่นคูเป้ใช้ด้านหน้าแบบปีกนก 2 ชั้น และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ โดยเป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ
อีกทั้งยังติดตั้งระบบความปลอดภัยมากมาย ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว หรือ VDC ระบบเลี้ยว 4 ล้อ หรือ 4WAS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
|
ถ้าไม่มีอะไร ผิดพลาด คาดว่านิสสันจะส่งสกายไลน์ คูเป้ใหม่ลงทำตลาดในญี่ปุ่นไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนในอเมริกาเหนือสัมผัสได้กับอินฟินิตี้ จี37 กับราคา 34,500-35,550 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.13-1.17 ล้านบาท
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น