วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2550

เปอโยต์207ซีซี 1.98 ล้านบาทแรงจังหลังคาเปิดได้

เปอโยต์207ซีซี 1.98 ล้านบาทแรงจังหลังคาเปิดได้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 สิงหาคม 2550 14:57 น.
เปิด ตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมากับ "เปอโยต์ 207 ซีซี" น้องเล็กของค่ายสิงห์ลำพอง ด้วยรูปลักษณ์คูเป้ 2+2 ที่นั่งโฉบเฉี่ยวโดนหัวใจวัยโจ๋

สำหรับรูปทรงภายนอกเปอโยต์ 207 ซีซีเน้นการออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมด้วยเส้นสายบนตัวถัง ไฟหน้าทรงหยดน้ำเรียวยาว ไฟตัดหมอกสไตล์สปอร์ตดุดันล้อมกรอบด้วยโครเมียม กระจังหน้าขนาดใหญ่สามารถรับลมและระบายลมได้ดียิ่งขึ้น

กระจกหน้ากรองแสงบานใหญ่สะท้อนความร้อน คานเสาลาดเอียงเพื่อลดลมต้านเมื่อเปิดประทุนแล้วจะสามารถรีดลมให้ผ่านไป ด้านหลังโดยไม่ปะทะหน้าคนขับและผู้โดยสารด้านหลัง กระจกมองข้างดีไซน์ใหม่ให้มุมมองด้านหลังกว้างขึ้นพร้อมติดตั้งไฟเลี้ยว ด้านข้าง ด้านท้ายติดตั้งสเกิร์ตขนาดเล็กในตัวพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม ติดตั้ง Parking Sensor เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการถอยจอด ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ให้สอดรับกับช่องแอร์ ชายล่างเป็นสเกิร์ตในตัวรับกับชายกันชนด้านข้าง ปลายท่อไอเสียเสริมด้วยโครเมียมซ่อนไว้ใต้กันชน

ส่วนภายในห้องโดยสารคลาสสิคสไตล์รถยนต์คูเป้ผสานความสปอร์ตของรถเปิดประทุนอย่างลงตัว ที่นั่งเป็นแบบ 2+2 เบาะหนังแท้โอบกระชับแบบบักเก็ตซีท พวงมาลัยสไตล์สปอร์ตแบบสามก้านพร้อมเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า กรอบช่องแอร์ คันเกียร์ แป้นเหยียบเบรกและคันเร่งเสริมด้วยโครเมียม แผงแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่รับกับฝากระโปรงหน้า วิทยุรุ่น RD4 สามารถเล่น MP 3 ได้ พร้อม CD Changer 5 แผ่น พร้อมระบบ Hand Free Kit ที่สื่อสารกับโทรศัพท์มือถือผ่านระบบ Bluetooth ได้ จอมัลติฟังก์ชั่นแสดงผลการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ลำโพง JBL 6 จุดพร้อมระบบ JBL HIFI ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone มาตรวัด 3 วงล้อมกรอบด้วยโครเมียม

แม้เป็นรถเล็กแต่ความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาวจากสถาบัน Euro NCAP การออกแบบ โครงสร้างด้านหน้าเป็นแบบเดียวกับเปอโยต์ 407 ที่จะดูดซับและกระจายแรงกระแทกจากการชนได้ดี เปอโยต์ 207 วางเครื่องยนต์ต่ำลงและลึกเข้าไปด้านใน เพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทกศีรษะของคนโดนชน นอกจากโครงสร้างที่แข็งแกร่งแล้ว ภายในห้องโดยสารยังติดตั้งถุงลมกันกระแทก 4 จุด เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 4 ตำแหน่ง ด้านหน้าปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ ติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงดันเบรก EBFD ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน EBA ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ESP ระบบป้องกันล้อลื่นไถล ASR คานซับแรงกระแทกด้านข้างพร้อมโฟมซับแรงกระแทกที่ประตู เสริมความมั่นใจในด้านความปลอดภัยได้เต็มเปี่ยม

หลังคาเปิดประทุนรูปแบบ ใหม่ที่ผสมผสานระหว่างเปอโยต์ 206ซีซี และเปอโยต์ 307ซีซี สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกเป็นรถสปอร์ตคูเป้ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส และสามารถเปิดหลังคาได้ขณะขับที่ความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. เปอโยต์ 207ซีซี ติดตั้งระบบ rollover ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลัง เพื่อช่วยในการป้องกันศีรษะผู้โดยสารตอนหลังกรณีที่รถเกิดพลิกคว่ำ ซึ่งจะขยายตัวขึ้นให้เสมอหลังคารถในขณะเกิดอุบัติเหตุ


เปอโยต์ 207ซีซี วาง เครื่องยนต์เบนซิน รุ่นใหม่ ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง พีเอสเอ เปอโยต์ ซีตรองและ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่ใช้รหัสว่า EP6 ขนาดเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี พร้อมระบบ VVT ทั้งด้านไอดีและไอเสีย และระบบ VVL เพื่อควบคุมการเปิด-ปิดของวาล์วไอดี ทั้ง 2 ระบบนี้นำมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 160 นิวตันเมตร ที่ 4,250 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ AL4 4 สปีด พร้อมระบบ Porsche Tiptronic System สามารถปรับเปลี่ยนลักษณะการขับขี่ให้เป็นแบบเกียร์ธรรมดาได้อย่างง่ายดายเพียงเลื่อนคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง Manual

สนนราคาค่าตัว 207 ซีซี อยู่ที่ 1.98 ล้านบาท หากสนใจก็รีบจองหน่อยเพราะข่าวแว่วมาจากบ.ยูโรเปียน โอโตโมบิลส์ว่าล็อตแรกจำนวน 6 คันขายหมดแล้ว ส่วนล็อตที่สองก็มีเจ้าของจับจองกันครบเรียบร้อยโรงเรียนน้ำหอม

โตโยต้า “โนอาห์” สดจากญี่ปุ่นถึงไทย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2550 13:26 น.
กลุ่มรามคำแหง (BRG) กลายเป็นเสือปืนไวอีกครั้ง ชิงเปิดตัว โตโยต้า โนอาห์” รถอเนกประสงค์ใหม่แกะกล่องจากแดนปลาดิบนำมาให้สาวกเอ็มพีวีกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง

โนอาห์ เป็นรถอเนกประสงค์ 8 ที่นั่ง ที่เพิ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้รับการปรับรูปโฉมใหม่หมดให้ดูบึกบึนแต่ยังคงไว้ด้วยอุปกรณ์อำนวยความ สะดวกสบายมากมายทั้งภายนอกและภายใน เช่น กระจกตัดแสงรอบคัน, ไฟตัดหมอกหน้า, ประตูสไลด์ไฟฟ้าซ้าย-ขวา, รีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย, KEY LESSGO, เบาะที่นั่งแถวสอง สามารถหมุนได้ 180 องศา และล้อแมกซ์ขอบ 17 นิ้ว

สำหรับรุ่นที่นำเข้ามา เป็นแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ บรรจุเครื่องยนต์รหัส 3ZR-FE 4 สูบ DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Dual-VVT-I ปริมาตรกระบอกสูบ 1986 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 143 ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 194 นิวตันเมตร ที่ 3,900 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที-ไอ(CVT-i)

ทั้งนี้ ช่วงแนะนำโนอาห์ มาพร้อมกับของแถมอุปกรณ์เสริมพิเศษ นาฬิกาข้อมือกุญแจรีโมต เปิด/ปิดรถ และชุดแต่ง Styling Package 9 ชิ้น แต่ช้าก่อน! ยังไม่หมด รามคำแหงกรุ๊ป จัดราคาพิเศษ 2.19 ล้านบาทจากปกติตั้งไว้ 2.39 ล้านบาท และข้อเสนอดาวน์เริ่มต้นเพียง 15% (เฉพาะท่านที่เป็นวิศวกรหรือแพทย์ ไม่ต้องดาวน์และสั่งซื้อภายในวันที่ 15 กันยายนนี้) พิเศษอย่างนี้มีที่ไหนอีก

Mazda 6 พลิกความสปอร์ตสู้2คู่ปรับร่วมชาติ

Mazda 6 พลิกความสปอร์ตสู้2คู่ปรับร่วมชาติ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2550 19:05 น.
หลังจากโตโยต้าส่งคัมรี่ใหม่กินยอดขายมาแบบนิ่มๆ มานานร่วมปี ตอนนี้ตลาดรถยนต์ครอบครัวระดับกลางเริ่มกลับมามีความคึกคักอีกครั้ง

โดยหลังจากที่ฮอนด้าเผยโฉมแอคคอร์ดใหม่ในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะเป็นโฉมเดียวกับที่ขายในไทยออกมาได้ไม่นาน ทางด้านมาสด้าก็เปิดเผยภาพพร้อมกับรายละเอียดคร่าวๆ ของรุ่น 6 ใหม่ตามออกมาบ้าง เพื่อหวังสะกัดการตัดสินใจของลูกค้าเพื่อไม่ให้เทใจไปทางฝั่งของฮอนด้ามาก นัก

มาสด้าเปิดเผยว่า 6 ใหม่จะมาพร้อมกับกลยุทธ์ในการใช้ความสปอร์ตสร้างความสนใจจากลูกค้า และการเปิดตัวในคราวนี้มาพร้อมกันทั้งซีดาน, แฮทช์แบ็ก และสเตชันแวกอน โดยที่แม้ว่าจะมีมิติตัวถังขยายใหญ่ขึ้นจากรุ่นที่ผ่านมา แต่ในเรื่องของน้ำหนักตัวรถกลับลดลง เพื่อคงคอนเซ็ปต์ในเรื่องของความสนุกสนานในการขับขี่ตามสไตล์ Zoom Zoom

ส่วนเครื่องยนต์ยังไม่ มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาในตอนนี้นอกจากระบุว่าในตลาดสหรัฐอเมริกาจะมี ทั้งรุ่น 4 สูบที่จะถูกขยับความจุจาก 2,300 ซีซีในรุ่นเดิมมาเป็น 2,400 ซีซี และมีตัวแรงในแบบวี 3,500 ซีซีที่ยังไม่เปิดเผยแรงม้าตามออกมาเป็นอีกทางเลือก

โดยที่ในยุโรปจะมีรุ่นเทอร์โบดีเซลให้เลือกใช้เหมือนเดิม ซึ่งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลเป็นบล็อกใหม่ให้ทั้งความประหยัดและมีระดับของ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียลดลงจากเดิม

คงต้องดูกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วความสปอร์ตและรูปลักษณ์ที่ออกแบบได้ อย่างสวยโดนใจจะสามารถซื้อใจลูกค้า และสามารถสร้างแรงกดดันให้กับโตโยต้า คัมรี่ และฮอนด้า แอคคอร์ดที่เป็นเจ้าครองตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ในสหรัฐอเมริกาได้หรือเปล่า

ส่วนการทำตลาด จะมีขึ้นหลังจากเปิดตัวในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 กลางเดือนกันยายนนี้ ซึ่งในญี่ปุ่นน่าจะเป็นกลุ่มแรกที่มีขาย และใช้ชื่ออาเทนซ่าเหมือนเดิม

Mercedes-Benz F700 ขับความหรูด้วยขุมพลังไฮเทค

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 กันยายน 2550 09:29 น.
บนเวทีในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 ที่เริ่มขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา นอกจากความสวยของรถยนต์รุ่นใหม่อย่างซี-คลาส แวกอน และหลากหลายรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมรุ่นใหม่ๆ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์นำ มาจัดแสดงแล้ว ยังมีต้นแบบสุดหรูอีกรุ่นที่สามารถเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี เพราะมีความโดดเด่นไม่เฉพาะรูปลักษณ์ภายนอกที่สามารถผสมผสานความหรูและความ ปราดเปรียวได้อย่างลงตัวแล้ว ยังเหนือขั้นด้วยเครื่องยนต์ต้นแบบสุดไฮเทคที่สามารถตอบสนองได้ครบทุกความ ต้องการ


เอฟ700 เป็นต้นแบบรุ่นใหม่ที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึง แนวคิดที่ก้าวหน้าในการผสมผสานความสปอร์ตให้เข้ากับความหรูได้อย่างกลมกลืน ซึ่งบนเรือนร่างแบบซีดาน 4 ประตูที่มีความยาวในระดับ 5,170 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อในระดับ 3,450 มิลลิเมตร ทุกรายละเอียดได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Aqua Dynamic ซึ่งจะเป็นรูปแบบที่มีการนำมาประยุกต์เพื่อใช้กับรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต

นอกจากรูปร่างที่สวยแล้ว อีกสิ่งที่ทำให้ เอฟ700 ได้รับความสนใจคือ ความไฮเทคของเทคโนโลยียุคใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นการนำเครื่องยนต์เบนซินต้นแบบที่เรียกว่า Diesotto มาปรับปรุงให้เหนือระดับขึ้นอีกขั้นในรูปแบบของระบบไฮบริด

เครื่องยนต์รุ่นนี้พัฒนาบนพื้นฐานของขุมพลังเบนซิน แต่มีการปรับปรุงและติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไป เช่น ระบบจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง หรือ Direct Injection, ระบบอัดอาการแบบเทอร์โบ และระบบการแปรผันอัตราส่วนการอัดของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการทำงานของเครื่องยนต์

เมอร์เซเดส-เบนซ์เผยว่าเคล็ดลับที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักในการทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์บล็อกนี้ คือ การติดตั้งระบบควบคุมการจุดระเบิดแบบอัตโนมัติ หรือ Controlled auto ignition เข้าไป ซึ่งสามารถทำให้มีการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับที่ได้จากเครื่องยนต์ดีเซล และที่สำคัญ คือ เครื่อง ยนต์บล็อกนี้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่สังเคราะห์ขึ้นมาใหม่ สำหรับใช้งานเฉพาะทาง แต่สามารถเข้าปั๊มแล้วเติมน้ำมันเบนซินเหมือนกับรถยนต์ทั่วไปได้

ตัวเครื่องยนต์เป็นแบบ 4 สูบ 1,800 ซีซีแต่ได้รับการพัฒนาให้มีกำลังขับเคลื่อนมากถึง 238 แรงม้า แลแรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. พร้อมกับมีการปรับปรุงให้เหนือชั้นภายใต้รูปแบบของระบบไฮบริดด้วยการพ่วง มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 20 แรงม้ามาช่วยลดภาระในการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์

ผลก็คือ สมรรถนะในการขับขี่ที่จัดจ้านแม้จะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเล็กแต่ต้องแบกตัวถังขนาดใหญ่ ใช้เวลาเพียง 7.5 วินาทีสำหรับการทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่มีความโดดเด่นในเรื่องของค่ามลพิษในไอเสีย เพราะว่าผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพียง 127 กรัมต่อการแล่น 1 กิโลเมตร และมีความประหยัดในระดับ 21.5 กิโลเมตร/เลยทีเดียว

อีกเทคโนโลยีที่ถือว่าไฮเทคคือระบบช่วงล่างแบบ PRE-SCAN ซึ่งจะมีการติดตั้งเซ็นเซอร์แบบเลเซอร์เอาไว้ที่ไฟหน้าของตัวรถเพื่อทำหน้าที่เสมือน ‘ตา’ ในการตรวจสภาพเส้นทางข้างหน้า พร้อมกับระบบจะจำลองภาพของถนนที่เกิดขึ้นจากข้อมูลที่ส่งเข้ามาเพื่อสั่ง การปรับระดับความหนืดของโช้กอัพแบบแยกส่วนในแต่ละล้อเพื่อให้มีการทำงานที่ เหมาะสมกับสภาพเส้นทางจริงในการตอบสนองต่อความนุ่มนวลในระดับสูงสุด

ทั้งหมดคือความไฮเทคของเทคโนโลยียานยนต์ที่ถูกรวบรวมอยู่ในตัวถังซีดานระดับหรูหราของ เอฟ700 ซึ่งแน่นอนว่าบางเทคโนโลยีในตอนนี้คือต้นแบบสำหรับการจัดแสดง แต่ถ้าหากเวิร์คและได้รับการตอบรับที่ดี ก็อาจจะกลายเป็นจริงในการนำมาใช้กับรถยนต์ในสายการผลิตก็ได้